
(27 พ.ย. 62)
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย
กล่าวถึงการวางตัวบุคคลที่จะทำหน้าที่ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
โดยระบุว่าพรรคเพื่อไทยเห็นว่าบุคคลที่จะมาทำหน้าที่ดังกล่าว
จะต้องยึดมั่นในหลักการ 4 เรื่อง คือ
1. จะต้องเป็นบุคคลที่มองเห็นปัญหา
มองเห็นจุดอ่อนของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ว่าเป็นอุปสรรคขัดขวางการพัฒนาประเทศ อย่างไร
2. จะต้องเป็นบุคคลที่ไม่ได้รับประโยชน์จากความไม่ชอบธรรมของรัฐธรรมนูญ
จะต้องไม่ใช่กลุ่มคนที่เขียนรัฐธรรมนูญขึ้นมาเพื่อสืบทอดอำนาจตนเอง
หรือผู้ที่ได้รับอานิสงส์จากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จากการสืบทอดและดำรงตำแหน่งต่างๆ
3. จะต้องเป็นบุคคลที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย
และสร้างให้ประเทศมีระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างถูกต้องตามหลักการประชาธิปไตย
เป็นสากล โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ใช่ยึดรัฐราชการเป็นศูนย์กลางอย่างในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
4. จะต้องเป็นบุคคลที่ฟังข้อมูลอย่างรอบด้าน
ไม่รับคำสั่งจากผู้มีอำนาจมาแก้ไขเพื่อประโยชน์ของการสืบทอดอำนาจต่อ
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า รายชื่อที่ถูกเปิดเผยมาจากฝั่งรัฐบาล
มีเจตนาที่จะดึงเกมหรือแก้เกมการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่
เพราะนั่นอาจหมายถึงความไม่จริงใจ
โดยบุคคลที่จะมาทำหน้าที่เป็นประธานกรรมาธิการวิสามัญจะต้องเป็นผู้ที่มองเห็นปัญหาและจุดอ่อน
รวมถึงมีความตั้งใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
แต่บุคคลที่ถูกเสนอชื่อโดยรัฐบาลกลับเป็นบุคคลที่ได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญฉบับนี้
คนเหล่านี้จึงไม่ต้องการที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่อาจเข้ามาเพื่อเล่นเกมการเมืองเท่านั้น
โดยไม่คำนึงถึงภารกิจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติเพราะทุกคนเห็นจุดอ่อนและปัญหาร่วมกันแม้แต่รัฐบาล
ตั้งแต่ยุค คสช. ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ได้ออกคำสั่งแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยมาตรา 44 ที่ตนเองเป็นผู้เขียนขึ้นมาหลายครั้ง
จนกระทั่งมายุครัฐบาลเลือกตั้ง กรณีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาก็ขัดรัฐธรรมนูญ
ซึ่งถือเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ
“ขอเตือนอย่าส่งคนเข้ามาป่วนหรือยื้อเป็นเกมการเมือง
วันนี้ขอความจริงใจ เพราะพรรคในฝ่ายรัฐบาลก็เสนอญัตติดังกล่าวเช่นกัน
จึงขอความจริงใจให้ประชาชน
อย่าพยายามยื้อการศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญเหมือนที่ผ่านมา
แม้รัฐบาลจะมีเสียงมากกว่าฝ่ายค้านแต่รัฐบาลจะอยู่ได้ด้วยความจริงใจ
และได้รับความศรัทธาจากประชาชน”
คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำว่า ต้องการให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จ
โดยเริ่มต้นจากการปลดล็อคมาตรา 256 ซึ่งไม่ควรใช้เวลาศึกษานานเกินไป
จากนั้นเปิดทางให้ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร.
ดึงผู้รู้จริงทุกฝ่ายเข้ามา ร่วมกันแก้ไขให้เกิดรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์ เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชนเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในปี
2540
More Stories
ทราบหรือไม่? คนไทยใช้ #หน้ากากอนามัย 43,160 กิโลกรัม/วัน แล้วขยะเหล่านี้ อันตรายหรือไม่? ไปไหน? และถูกกำจัดอย่างไร?
“ผู้กองมาร์ค” จี้ “บิ๊กตู่” ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ใครได้ประโยชน์
เพื่อไทยโวยรัฐบาลออกพ.ร.บ.ฉุกเฉินช้าไป’โควิด’ไปต่างจังหวัดแล้ว ด่าลั่นมาตรการเอื้อเจ้าสัว